บทความพิเศษ “โต๊ะเซียน ณ ศาลาวีรชน”
หากจะกล่าวถึง “โต๊ะเซียน “ ในปัจจุบัน ก็คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก ว่าคืออะไร และ อยู่ที่ไหน และ แน่นอน คือจุดที่พวกเราน้องพี่ชาวอุตสาหการ ใช้เป็นที่พักผ่อน นั่งรอเรียนบ้าง นั่งคุยกันบ้าง หรือ เป็นที่นัดหมาย และทำกิจกรรมร่วมกัน ของพี่น้องเราชาวอุตสาหการ
ผมได้ก้าวเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ในปี 2526 ซึ่งในขณะนั้น ยังใช้ชื่อว่า” สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี “ สถานที่และตึกเรียนก็มีไม่มากมายเหมือนกับทุกวันนี้ และ ภาควิชาอุตสาหการ ก็ส่วนใหญ่จะเรียนตาม shop ต่างๆ อาทิเช่น shop 1 กลึง ไส เจาะ , shop 2 หล่อ และ ทำกระสวน shop 3 เชื่อม และ shop 4 ตะไบ กับ ตีกระป๋อง ( ตีกระป๋อง คือ งานsheet metal ) และ โรงอาหารก็จะอยู่ด้านหน้า สถาบัน ( ขอใช้คำว่าสถาบัน เพราะ ความเคยชินที่เรียก มหาวิทยาลัยที่เรียนนี้ว่า “สถาบัน” ) หรือประมาณ ด้านหน้าตึกอธิการปัจจุบัน แล้วเวลาจะเดินไปเรียนก็จะเดินผ่านหอประชุม ( คือ ตึกอธิการปัจจุบัน ) โดยที่ หลังหอประชุมก็จะมี ศาลาวีรชน ตั้งอยู่นั่นเองจึงทำให้เหล่าพี่ๆ น้องๆ อุตสาหการมักจะมานั่งพักผ่อน กันบริเวณนี้ เมื่อพวกเราพี่น้อง รวมตัวกันเหนียวแน่น ก็ทำให้ไม่มีใครอยากจะมานั่งแถวนี้ อาจเป็นเพราะเกรงใจ หรือ เกรงขามไม่ทราบ โดยมักนั่งกันอยู่ตามริมสระน้ำ ( ที่พวกเราเรียกว่า สระมรกต ) สมัยนั้น ยังไม่มีตึก CB มาบังบริเวณรอบสระน้ำจะสวยงาม และ มองเห็นโดยรอบ ซึ่ง ฝั่งตรงข้ามจะเป็น shop ของ เครื่องกล จึงทำให้ พวกผมมีเพื่อนสนิทเรียนอยู่เครื่องกลหลายคนเลย
สถาบันของเรามีความเป็นธรรมชาติ และ อุดมสมบูรณ์ดีมาก หากยามที่นั่งอ่านหนังสือเวลาใกล้สอบ พวกเราจะมาอยู่กินนอนกันที่สถาบัน แล้วสามารถหาอาหารมาเลี้ยงดูเพื่อนๆได้อย่างสบาย โดยเตรียมแค่ข้าวสารมาจากบ้านเท่านั้นแหล่งอาหารสำคัญของพวกผมคือ ปลานิล ที่สระมรกต ปลาจะตัวใหญ่มากๆ แต่ทางสถาบันก็มีกฎว่าห้ามจับสัตว์น้ำ แต่ด้วยความหิว และ ทรัพย์จาง จึงมีความจำเป็น เพื่อนผมรุ่น 24 ชื่อ “ บวร “ แกเป็นคนเก่ง มีหน้าที่หาอาหารให้เพื่อนๆ แกมีความสามารถพิเศษ แกตกปลาโดยที่ไม่มีใครจับได้ ก็อาศัยวิธี นั่งกันบริเวณ โต๊ะเซียน ที่ตั้งอยู่ริมสระน้ำ หาไส้เดือนบริเวณนั้นมีมากมาย จับเกี่ยวเบ็ด แล้ว ใช้เส้นเอ็นผูกไว้ที่ หัวแม่โป้งนิ้วเท้า รปภ. หรือ อาจารย์ ที่เดินผ่านไปมา ไม่สามารถมองเห็นได้ เมื่อปลาฮุกเหยื่อ แกจะใช้หัวแม่โป้ง ( ตีน ) ตวัดเบ็ดให้เกี่ยวปลาให้ติด หลังจากนั้นแกจะนั่ง รอดูว่าไม่มีใครผ่านแถวนั้นจึงดึงปลาขึ้นมาใส่ถังไว้ เพื่อรอนำไปประกอบอาหารให้เพื่อนๆผู้หิวโหย
แกยังมีความสามารถพิเศษ ในการปีนต้นมะพร้าว ในขณะนั้นสถาบันเรามีต้นมะพร้าวอยู่มากพอควร เพื่อน บวร คนนี้จะ ปีนเก็บมะพร้าวมาปลอกกิน น้ำมะพร้าวอ่อนหอม และ หวานชื่นใจมาก อีกทั้ง บริเวณหลังห้องสมุดในปัจจุบัน เมื่ออดีตเป็นบริเวณบ้านพักอาจารย์ ไม่ทราบว่าท่านใดปลูกกล้วยเอาไว้ ผมเข้าใจว่าเป็นของธรรมชาติ จึงไม่มีเจ้าของ พวกเราก็จะคอยไปดูเฝ้าตั้งแต่เป็นเครือเล็กๆ เมื่อขนาดได้ที่แล้ว จะแอบไปตัดมาไว้ที่ห้องภาค ที่พวกเราและ รุ่นพี่ๆ ใช้เป็นห้องรวมอ่านหนังสือ ก็จะมีกล้วยเอาไว้บริการพี่น้องของเรา
จะเห็นได้ว่าผมมีความสุขกับการเรียนในสถาบันแห่งนี้มาก สมัยก่อนเมื่อเข้าสู่เทศกาลรับน้องใหม่ เราก็จะใช้บริเวณโต๊ะเซียนนี้ ประชุมเชียร์ ว๊ากน้องกัน จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการหล่อหลอมรวมใจของพี่น้องเราชาวอุตสาหการ หลังจากประชุมเชียร์เสร็จ ก็จะมีกิจกรรม รอดซุ้ม รับน้อง ( ไม่ทราบว่าปัจจุบัน ยังมีอยู่หรือไม่ ) พวกเราก็จะใช้บริเวณแห่งนี้ จัดเป็นซุ้มเล็ก หลายๆ ซุ้ม เพื่อให้น้องเข้ามาทำกิจกรรมที่แตกต่างกันไป
ความสำคัญของโต๊ะเซียนที่เราจะลืมไม่ได้ คือ “ ศาลาวีรชน “ ที่พี่สมพงษ์ อุตสาหการ รุ่น 13 ได้ สร้างวีรกรรมไว้ให้กับประเทศชาติของเรา ผมขอฝาก สถานที่ศาลาวีรชน และ โต๊ะเซียน แห่งนี้ ไว้กับน้องๆรุ่นต่อๆไปช่วยกันอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมในส่วนดีงานของเรา ชาวอุตฯ ไว้ให้ยั่งยืนนาน อย่าให้ใครมาย้ายหรือ รื้อถอนไปไม่ได้ ก็ต้องขอฝากน้องๆต่อไป
อนันตชัย คูชัยยานนท์
อุตสาหการ รุ่น 24